bookmark_borderเทคนิคทำอย่างไรให้ดูไม่แก่สำหรับวัย 40+ 

สำหรับคนที่มีอายุขึ้นเลข3 อาจจะมองว่าเริ่มมีอายุมากขึ้นแต่เมื่อใดก็ตามที่อายุขึ้นเลข 4 เป็นต้นไปหลายคนมักจะรู้สึกว่าตนเองนั้นกลายเป็นคนแก่แล้ว ซึ่งถ้าหากใครที่อยู่ในวัยกำลังขึ้นเลข 4 แต่ไม่อยากที่จะกลายเป็นคนแก่มาทำวิธีการดังต่อไปนี้ ซึ่งเทคนิคเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถลดอายุได้ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม 

อย่างที่เรารู้กันดีว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารการกินหรือการพักผ่อนนั้นมีผลกับร่างกายของคนเราทั้งสิ้นและยังเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่จะทำให้อวัยวะต่างๆภายในร่างกายของเรานั้นแข็งแรงไม่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา  ดังนั้นถ้าหากใครที่อายุขึ้นเลข 4 แล้ว

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคุณจะต้องหาอาหารที่ดีมีประโยชน์กับร่างกายของคุณเองมาช่วยในเรื่องของการเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารไขมันดีการรับประทานอาหารโปรตีนที่มีประโยชน์และทานพวกวิตามินและเกลือแร่เพื่อบำรุงผิว 

การที่เรากินอาหารที่มีโปรตีนผักและผลไม้ลดพวกของมันของท่อต่างๆจะช่วยทำให้อวัยวะภายในของเราเสริมช้าลงและยิ่งทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูงก็จะช่วยให้ผิวพรรณของเรานั้นเปล่งปลั่งและลดริ้วรอยทำให้สุขภาพผิวของเรานั้นมีสุขภาพผิวที่ดีและกลับมากระชับได้และที่สำคัญอย่าลืมว่าอวัยวะทั้งภายในและภายนอกของเรานั้นมันจะเสื่อมโทรมไปตามวัยจะไม่เหมือนกับคนหนุ่มสาวดังนั้นหากอยากมีผิวพรรณที่อ่อนเยาว์ก็ควรจะต้องมีการบำรุงผิวด้วยการหาครีมบำรุงผิวบำรุงอยู่สม่ำเสมอและลดความเสี่ยงที่จะต้องไปเจอกับรังสี UV  

 สำหรับการดูแลผิวพรรณของเราให้เปล่งปลั่งดูดีอยู่เสมอถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในวัย 40+ ก็ตามนอกจากเรื่องของครีมบำรุงผิวและทีมกันแดดต่างๆแล้วการที่เราพักผ่อนเพียงพอการที่เราไม่ทำให้ชีวิตของเราต้องอยู่กับความเครียดมากจนเกินไปก็จะทำให้ของเรานั้นต่างๆเช่นเดียวกัน

เพราะถ้าหากเรามีแต่ปัญหามีแต่ความเครียดและจมอยู่กับปัญหา ตลอดเวลาก็จะทำให้ตัวเราไม่รู้สึกสดใสผิวพรรณก็จะไม่เปล่งปลั่งดังนั้นทางที่ดีเราควรที่จะอยู่ในสภาวะปลอมที่ดีและควรจะปล่อยวางกับเรื่องบางเรื่องไม่ควรเครียดกับเรื่องบางเรื่องมากจนเกินไปหากิจกรรมอะไรทำก็ได้ที่ทำให้เรานั้นรู้สึกผ่อนคลายและควรจะทำให้ตนเองนั้นหัวเราะบ่อยๆยิ้มเยอะๆ 

อย่างไรก็ตามการดูแลไม่ให้ตนเองแก่นั้นทำได้ไม่ยาก  ถ้าหากว่าเรามีความตั้งใจจริงที่จะทำให้ตนเองนั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีเพราะเพียงแค่เราใช้ชีวิตประจำวันที่ปกติแต่แค่ใส่ใจตนเองและมันดูแลตนเองให้ดี

ทั้งเรื่องอาหารการกินทั้งเรื่องภาวะจิตใจมีความคิดในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ  รับรองได้เลยว่าคุณจะอ่อนไหวได้อย่างแน่นอนเพราะถ้าหากว่าเราดูแลทั้งสุขภาพผิวสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจให้แข็งแรง เมื่อมีสุขภาพที่ดีรูปลักษณ์ภายนอกก็จะดีตามไปด้วย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล

bookmark_borderกับดักของการช้อปปิ้ง 

กิจกรรมที่สาวๆมักนิยมทำกันและชื่นชอบทำเป็นอย่างมากนั่นก็คือการช้อปปิ้งนั่นเองซึ่งหลายคนมองว่าการช้อปปิ้งนั้นทำให้เรามีความสุข

และยังสามารถช่วยคลายเครียดได้อีกด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากว่าเราได้ซื้อของที่เราอยากได้มันจะยิ่งทำให้เรามีความสุขแบบคูณ 2 เลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตามหากเราไม่มีสติในการช้อปปิ้งมันก็อาจจะทำให้เราเงินหมดโดยไม่รู้ตัวก็เป็นไปได้ซึ่งมันก็คือกับดักของการช้อปปิ้งนั่นเองมาดูกันว่าสิ่งที่จะทำให้เราติดกับดักของการช็อปปิ้งนั้นมีอะไรบ้าง 

การช้อปปิ้งสิ่งของตามกระแสนิยม  หลายครั้งที่เราไม่ได้อยากที่จะใช้สินค้านั้นแต่ว่าสินค้านั้นเกิดเป็นกระแสที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจและมีการรีวิวผ่านทางโซเชียลกันมากว่าเป็นสินค้าที่ดี  หากใครไม่มีไว้ในครอบครองก็จะกลายเป็นคนเอา

ซึ่งกระแสนิยมนี่เองที่ทำให้หลายคนติดกับดักและหลงกลเข้าไปทำการชอปปิ้งและเมื่อเราได้ช้อปปิ้งสินค้าชนิดนั้นมาแล้วเราอาจจะไม่ได้จำเป็นในการใช้งานสินค้าชนิดนั้นหรือไม่ได้ชื่นชอบสินค้าชนิดนั้นเลยก็ได้ซึ่งการซื้อสินค้าตามกระแสนิยมนั้นก็คือ 1 ในกับดักของการช้อปปิ้งที่ทำให้เราเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์นั่นเอง 

ดังนั้นหากใครที่กำลังเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการ Shopping สิ่งของตามกระแสนิยมแนะนำว่าก่อนที่คุณจะทำการช้อปปิ้งนั้นคุณควรตัดสินใจให้ดีเสียก่อน

ว่าแท้ที่จริงแล้วสิ่งที่ทุกคนกำลังนิยมกันนั้นอยู่ในความนิยมชมชอบของคุณหรือไม่ยกตัวอย่างเช่น  การช้อปปิ้งเสื้อผ้า  ซึ่งส่วนใหญ่เราผู้คนมักจะมีการนิยมซื้อเสื้อผ้าตามกระแสแต่ถ้าหากว่าการซื้อเสื้อผ้ามาใส่ตามกระแสแล้วไม่เหมาะกับตัวเราหรือราคาของสินค้านั้นแพงเกินกว่าเงินในกระเป๋าของเราเราก็ควรที่จะตัดสินใจให้ดีเสียก่อน  เพราะถ้าหากว่าเราซื้อเสื้อผ้าตามกระแสนิยมแต่ใส่แล้วไม่เหมาะกับเราเราก็แทบไม่ได้ใช้งานสินค้านั้นอีกเลยซึ่งเป็นการใช้จ่ายเงินแบบฟุ่มเฟือยโดยใช้เหตุนั่นเอง 

ช้อปปิ้งตามความรู้สึกไร้อารมณ์   สาวๆหลายๆคนมักจะนิยมออกไป shopping เพราะอยากที่จะให้ตนเองนั้นคลายเครียดหรือบางคนอยู่บ้านแล้วเหงาไม่รู้จะทำอะไรดีก็ออกไปช้อปปิ้งซึ่งการ Shopping โดยที่เราไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่แน่นอนเราอาจจะชอบปิ้งสินค้าตามใจและช็อปปิ้งนาในปริมาณมากโดยที่เราไม่คิดที่จะใช้สินค้านั้นจริงๆก็ได้  เช่นบางคนไปช้อปปิ้งเครื่องประดับทั้งที่ที่บ้านตัวเองก็มีเครื่องประดับเยอะแยะมากมายอยู่แล้วเป็นต้น

ดังนั้นถ้าหากใครกำลังมีภาวะอารมณ์ที่มีความเหงาหรือความเครียดหรือเบื่อหน่ายก็ตามแต่หากออกไปเดินตามห้างสรรพสินค้าพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดีอย่าช้อปปิ้งตามความอารมณ์หรือตามความอยากได้ของตนเองแต่ให้นึกถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการช้อปปิ้งเป็นหลักจะทำให้คุณนั้นมีความรอบคอบในการตัดสินใจซื้อได้ดีขึ้น

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

bookmark_borderเติมเต็มบ้านโต๊ะทำงานของแต่ละราศีด้วยการใช้ธาตุน้ำ

– ราศีสิงห์ Leo (17 เดือนสิงหาคม-16 กันยายน) ใช้โคมที่มีลวดลายของสายน้ำสีทองคำ หรือลักษณะเส้นโค้งที่นุ่มนวลแม้กระนั้นมีพลัง เป็นของเสริมแต่งบ้านและก็ห้องทำงาน หรือตกแต่งโต๊ะทำงานก็ได้ ที่จริง เครื่องหมายของดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ ก็ประยุกต์ใช้ก้าวหน้า

  • เพราะเหตุว่าราศีธาตุไฟของคุณ กับพลังธาตุน้ำ ถ้าช่วยเหลือกันในจุดที่สมควร
  • จะช่วยสร้างสมดุลให้รู้เรื่องร่วมไม้ร่วมมือ ความเรียบร้อยสำหรับการสนทนา
  • ทำให้ได้โอกาสความรุ่งโรจน์ในตำแหน่งที่มุ่งมาดอีกด้วย

– ราศีกันย์ Virgo (17 กันยายน-16 ตุลาคม) การใช้ผ้าม่าน หรือชุดที่นอนหมอนมุ้ง สีของผ้าที่มีไว้เพื่อคลุมเครื่องเรือน ปลอกสำหรับใส่หมอน ผ้าที่มีไว้เพื่อคลุมโซฟา เป็นโทนสีน้ำเงิน สีฟ้า สีคราม รวมทั้งสีเขียวธรรมชาติ จะผลักดันให้ได้ต้อนรับมิตรใหม่ๆแล้วก็รักษาความเชื่อมโยงอันยืนนาน

จะมีผลให้ได้โอกาสดีสำหรับการพูดจาต่อรอง การได้การช่วยเหลือร่วมมือ และก็มีผู้ที่ได้การสนับสนุนส่งเสริมเกี่ยวกับตำแหน่งงาน โปรเจ็คท์งานที่มองไม่แน่นอน จะกลับมามั่นคงขึ้น

– ราศีตุลย์ Libra (17 เดือนตุลาคม-15 เดือนพฤศจิกายน) ให้ความเอาใจใส่กับแนวทางของลม ต้นไม้ใหญ่ในบ้านในสวน อย่าให้บังทางลม หรือปกปิดปากทางเข้าบ้าน จะต้องเปิดช่องให้มีพลังธาตุลมผ่าน แล้วก็ทำให้เกิดความชื่นเย็น อันเป็นพลังธาตุน้ำซ่อนเร้นอยู่ จะช่วยทำให้ชีวิตงานการของคุณไม่ขัดข้อง การเดินทางใกล้ไกลราบรื่น ประสานงานด้านใด ก็จะสำเร็จด้วยดี ต้นไม้ที่เสนอแนะพิเศษเป็นต้นน้ำเต้า ต้นทับทิม แล้วก็ต้นเกาลัด

– ราศีพฤศจิก Scorpio (16 พฤศจิกายน-15 ธันวาคม) การวางอ่างบัวทางทิศตะวันออกของบ้าน หรือจัดอ่างบัว อ่างปลา ตู้ที่เอาไว้เลี้ยงปลาขนาดเล็กด้านในห้องทำงาน เลี้ยงพืชน้ำไว้ในแจกันวางบนโต๊ะทำงาน จะทำให้มีการหมุนเวียนที่ดี

พลังที่ส่งกระแสมาถึง จะก่อให้คุณได้โอกาสปรับแต่งสิ่งต่างๆให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ จะมีการปรับปรุงตัวเองอย่างไม่อยู่นิ่ง สิ่งที่คุณหวังฝันเกี่ยวกับอนาคตทางการงาน จะเป็นจริงเร็วทันใจเพิ่มขึ้น

– ราศีธนู Sagittarius (16 ธันวาคม-13 มกราคม) อะไรก็ตามที่มีรูปลักษณะกลม สีใส หรือสีโทนเหลืองทองคำ จะเป็นของกระตุ้นโชคลาภงานการสำหรับคุณ ทดลองหาลูกแก้ว หินมงคล รัตนชาติต่างๆที่มีลักษณะกลมมน จัดวางเอาไว้ในบ้าน ห้องทำงาน

หรือบนโต๊ะทำงานยิ่งถ้าหากเป็นคริสตัลหรือผลึกควอตซ์ที่สะท้อนแสงไฟ จะช่วยทำให้คุณได้เปล่งรัศมีสมรรถนะเยอะขึ้น สิ่งจำเป็นเป็นจำเป็นต้องหมั่นชำระล้างของดังที่กล่าวถึงมาแล้ว อย่าให้มีฝุ่นเขรอะเปรอะเปื้อน โชคลาภทางการงานจะเข้ามาหาคุณเสมอ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย      hoiana เวียดนาม

bookmark_borderกิจกรรมคลายเหงาเมื่อต้องกักตัวอยู่บ้าน

นี่เป็น แนวทางแก้เซ็งและก็แก้เหงาหงอย เมื่อคุณตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ต้องกักตัวอยู่บ้านที่จะทำให้ 2 อาทิตย์ที่คุณมิได้พบผู้ใดไม่ใช่เรื่องน่าระอาอีกต่อไป

  1. ดูหนัง-ซีรีส์แบบ non-stop คนใดกันแน่ที่เป็นพวกบริการสตรีมมิ่ง ตัวอย่างเช่น Netflix, Disney+ หรือ Viu อยู่แล้ว ก็ได้เวลาดูหนังหรือซีรีส์ที่ชอบพอกันแบบ non-stop อย่างยิ่งจริงๆ หรือถ้าเกิดไม่มีแอปพลิเคชั่นพวกนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะเหตุว่า LineTV ก็มีซีรีส์, ละคร และก็รายการต่างๆให้มองแบบจุใจเช่นเดียวกัน

 

  1. เล่นเกมตีสถิติ เก็บเลเวล สายเกมจำต้องไม่พลาด ด้วยเหตุว่านี่เป็นนาทีทองที่กำลังจะได้เล่นเกมโดยไม่มีผู้ใดกวนประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถูกใจเกมแนวเก็บเลเวลแบบ MMORPG (Massive Multiplayer Online Role-Playing Game) ที่เล่นออนไลน์พร้อมคนไม่ใช่น้อย เท่านี้ก็ไม่ต้องเหงาหงอยอยู่ตามลำพังคนเดียวแล้ว

 

  1. บริหารร่างกายตาม YouTube แม้ไม่ใช่คอซีรีส์และก็คอเกมก็ไม่สมควรปลดปล่อยให้การอยู่ตามลำพังคนเดียวตลอด 1 วันจำต้องเสียเปล่า ขอเพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตซึ่งสามารถเปิดมอง YouTube ได้ ก็มีช่องเกี่ยวกับการบริหารร่างกายให้ฟิตแอนด์เฟิร์มของ Influencer อีกทั้งไทยและก็เทศ ให้ตามกด Subscribe อยู่ล้นหลาม

 

  1. กวาดชำระล้างห้อง ไหนๆออกไปไหนมิได้อยู่แล้ว ก็ฉวยโอกาสนี้ชำระล้างกวาดห้องให้เป็นระเบียบกันเลยดีกว่า และก็ถ้าหากห้องเกลื่อนกลาดสูงถึงขนาดจำต้องสะสางเครื่องใช้ออกไปบ้าง ทดลองใช้แนวทางแบบ KonMari มองก็ได้ อะไรด้ามจับแล้วไม่ Spark joy ก็เขวี้ยงทิ้งไป หรือหากยังคงใช้การได้อยู่ จะเก็บรวบรวมไว้รอบริจาควันหลังก็ได้

  1. อ่านหนังสือที่ซื้อมาดองไว้ สำหรับผู้ที่ถูกใจซื้อหนังสือมาเก็บๆไว้มาก แม้กระนั้นไม่เคยได้ถือมาอ่านเสียเชิง อย่างที่คำศัพท์ประเทศญี่ปุ่นเรียกกันว่า ซุนโดระอุ (Tsundoku) ก็จะได้โอกาสได้อ่านหนังสือที่ซื้อมาดองไว้เสียรู้ ดีไม่ดีบางทีอาจจะได้ตรวจไปในตัวเพราะคุณเผลอซื้อหนังสือเล่มไหนมาซ้ำบ้างหรือเปล่า

 

  1. ฝึกหัดทำของหวาน-ของกิน ถ้าเกิดใครกันแน่อยู่บ้านผู้เดียวอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงหัวข้อการใช้ครัวร่วมกับผู้ใดกัน บางทีอาจจะฝึกฝนทำของหวานหรือของกินที่ต้องการทำไปเสียเลย แต่ว่าอย่าลืมเช็กวัตถุดิบให้มั่นใจซะก่อนว่ามีพอเพียงไหม ด้วยเหตุว่าหากหมดเกลี้ยงก็หมดสิทธิ์ออกมาจากบ้านไปพบซื้อด้านนอกอยู่ดี

 

  1. นอนให้หายต้องการ ผู้ใดที่คิดว่าก่อนหน้าที่ผ่านมาอดนอนมาตลอด นอนเท่าใดก็ไม่เคยพอเพียง มั่นใจว่าสิ่งที่เป็นยอดเยี่ยมประสงค์ของคุณ คงจะหนีไม่พ้น “การนอน” ซึ่งเป็นการพักที่ดีเยี่ยมที่สุด และก็นี่จะเป็น 14 วันที่ได้นอนกันจนกระทั่งหายต้องการ ไม่ต้องมารอกดนาฬิกาสำหรับปลุกตอนเวลาเช้าอีกต่อไป

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   ปัญหาเกี่ยวกับหูตึง

bookmark_borderวิเคราะห์ทำเลบ้านที่คนเจนวายชอบ

เริ่มแรกพวกเรามาทำความรู้จักคน Gen Y กัน โดยประมาณก่อน คน Gen Y หากสรุปแบบเห็นภาพชัดคือผู้คนที่เกิดในช่วง ค.ศ. 1980-1997 ที่สามารถเรียกได้เลยว่าเกิดขึ้นมาพร้อมทั้งเทคโนโลยี digital รวมทั้งยังเป็นกลุ่มของผู้คนที่พร้อมปรับปรุงรวมทั้งพร้อมที่จะเปิดรับอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอด

จากการสำรวจการกระทำของคนเจนนี้นั้น ชี้ให้เห็นว่าไลฟ์สไตล์ของพวกเขานั้น เป็นฝูงคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง

รักในอิสระไม่ว่าจะเป็นด้านความนึกคิด หรือวิธีทำงาน แล้วก็ยังความปรารถนาอุปกรณ์หรือตัวกลางซึ่งสามารถรองรับความต้องการสำหรับการดำเนินชีวิตได้อย่างเร็วอีกด้วย ซึ่งแน่ ๆ ว่าจะต้องรวมทั้งเรื่องที่อยู่ที่อาศัยด้วยด้วยเหมือนกัน

ในเรื่องของที่พักอาศัยนั้น คนเจนวายมักมีการเลือกที่ประณีต เนื่องจากว่าที่อยู่ที่อาศัยนั้นจำเป็นต้องตอบปัญหาการใช้ชีวิตรวมทั้งไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ยิ่งกว่านั้นยังจำต้องสบายพร้อมกันกับความสนุกสนานร่าเริงสำหรับเพื่อการดำรงชีวิตอย่างสมดุล วันนี้พวกเราก็เลยได้สะสมวิธีการเลือกที่พักอาศัยของคน เจนวายมาให้เพื่อน ๆ พ้อง ๆ ทำความเข้าใจกัน ถ้าเกิดผู้ใดที่มีสิ่งที่แตกต่างไปจากนี้ ก็สามารถบอกต่อกันได้

– ทำเลที่ตั้งที่ตอบปัญหาการใช้ชีวิต

เพราะการลงทุนด้านอสังหาฯ มีมูลค่าสูง ฉะนั้นคนเจนวายจำเป็นต้องมั่นใจว่าการลงทุนของเขาจะกำเนิดผลดีสูงสุด แล้วกำเนิดผลดีได้ในระยะยาวในอนาคตกับการลงทุนครั้งเดียว ซึ่งแนวทางการเลือกทำเลที่ตั้งที่พักที่อาศัยของคน เจนวายซึ่งก็คือ อยู่ในบริเวณเศรษฐกิจ, มีการการติดต่อสื่อสารที่สะดวก เช่น ใกล้รถไฟฟ้า, ใกล้เครื่องอำนวยความสะดวกหรือสถานที่ยอดนิยม, ใกล้สวนสาธารณะ สำหรับผู้ที่ชอบที่จะดูแลสุขภาพ และตอบปัญหาได้นานาประการ

นอกเหนือจากเคล็ดลับสำหรับในการเลือกทำเลที่ตั้งแล้ว สิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กันเลยสำหรับคนเจนวายอีกอย่างหนึ่งก็คือ การออกแบบที่เด่น มีเอกลักษณ์ บ่งถึงความเป็นตัวเอง รวมทั้งรวมถึงฟังก์ชั่นรวมทั้งพื้นที่ใช้สอยได้มากมายแบบอย่างตามการใช้แรงงาน

การดูแลรักษาความสะอาดและก็ความปลอดภัย ที่อยู่ที่อาศัยสำหรับคนเจนวายควรมีระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยที่ตามมาตรฐาน ซึ่งรวมถึงการดูแลรักษาความสะอาดด้วย เพื่อความสุขใจต่อการอาศัยรวมทั้งความสบายของผู้เข้าอยู่อาศัย เมื่อมีการปลดปล่อยเช่าในอนาคตระยะยาว

ศูนย์กลางพร้อมด้วยอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อีกสิ่งหนึ่งที่ส่งผลต่อการตัดสินใจสำหรับเพื่อการเลือกซื้อที่พักที่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด มันก็คือ พื้นที่ศูนย์กลางของที่พักอาศัยนั้น ๆ นั่นเอง เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ อื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ผู้คนในเจนนี้นั้น

อาจจะมีทางเลือกที่มากขึ้น เมื่ออยู่ในเมือง และอาจจะน้อยเมื่ออยู่นอกเมือง แต่ว่า  เครื่องช่วยฟัง มีไว้ทำอะไร    อย่างไรบางคนก็อาจจะชอบไม่เหมือนกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นแค่แนวทางและการวิเคราะห์ความชอบบางส่วนเท่านั้น

bookmark_borderเรียนรู้การดูแลต้นไม้ที่รัก ก่อนจะป่วยด้วยโรคต้นไม้ต่าง ๆ

ตอนนี้กระแสการตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้กำลังฟีเวอร์มาก ๆ  เนื่องด้วยเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ดื้อรั้นอย่างกับสัตว์เลี้ยงอย่างหมาและก็แมว อีกทั้งการลงทุนยังน้อยกว่า ใช้ตกแต่งบ้านก็โคตรเท่ วางไว้มุมไหนก็สวยสบายตา แต่ว่าก็มักมิได้เรียนรู้ถึงกรรมวิธีดูแลอย่างพิถีพิถันรอบครอบ ทำให้เลี้ยงหรือปลูกไว้ไม่รอด

ต้นไม้ก็มีชีวิต มีความพอใจต่างกัน แต่ละต้นแต่ละประเภทที่แตกต่างก็จะมีความพอใจที่แตกต่าง ตัวอย่างเช่นถูกใจน้ำมากมาย-น้อย, ถูกใจแดดมาก-น้อย ฯลฯ

ก็เลยอยากการดูแลใส่ใจที่ดีราวสัตว์เลี้ยงทั่ว ๆ ไป ด้วยเหตุนั้นก่อนจะคิดนำเขามาเลี้ยงพวกเราควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าความชื่นชอบและก็การดูแลของเขาให้ดีก่อน แล้วก็ตรวจสอบตนเองเหตุว่าพวกเราเหมาะสมจะเลี้ยงเขาหรือเปล่า

รวมทั้งอีกเรื่องหนึ่งที่พวกเราควรศึกษาค้นคว้าแล้วก็ทำความเข้าใจก่อนที่จะนำต้นไม้สักต้นมาปลูกก็คือเรื่องของโรคในต้นไม้ต่าง ๆ ด้วยเหตุว่าหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ต้นไม้ของพวกเราตายหรือเลี้ยงแล้วไม่สวย เติบโตไม่ดีเสมือนผู้อื่น

ก็เพราะเหตุว่าโรคในต้นไม้กลุ่มนี้ล่ะ และก็โรคยอดนิยมในต้นไม่ที่เลี้ยงในบ้านโน่นเป็น โรคเชื้อราในต้นไม้ลองมองกันเลยดีกว่าว่ามีโรคอะไรบ้าง พร้อมแนวทางรักษาเบื้องต้นก่อนรุกลุกลามไปไกล เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับต้นไม้ของพวกเราในอนาคต

 

โรคเน่าเละ ชอบเจอในต้นไม้ที่ปลูกลงในบ้านที่มีความชุ่มชื้นสูง ดินในกระถางแน่นและไม่มีการเปลี่ยนแปลงดินเลย นำไปสู่น้ำนองสะสม ความชุ่มชื้นมิได้ระบายออก จนถึงมีเชื้อแบคทีเรียเข้ามาทำลายนำไปสู่รากเน่าตามมา

โรครากเน่า มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจกาการติดเชื้อรา Pythium spp. ซึ่งออาจจะติดมากับอุปกรณ์ที่ใช้ปลูกนั้นเปียกชื้นหรือเฉอะแฉะจนถึงเหลือเกินนั่นเอง ลักษณะโรคก็คือ รากเน่า ต้นเฉา ใบที่โคนเหลืองแล้วก็หล่น ตอนท้ายต้นไม้ของพวกเราก็จะตาย เว้นแต่อุปกรณ์ที่ใช้แล้วยังมีปัจจัยมากมายจากการปรับตัวของต้นไม้ไม่ทัน ซึ่งส่วนมากจะฯลฯไม้ที่นำเข้าจากต่างแดนนั่นเอง

โรคโคนเน่า เป็นโรคที่เจอในต้นไม้ที่เกิดขึ้นมาจากการปักชำ รวมทั้งชอบพบบ่อยในต้นอโกลนีมาแล้วก็สาวน้อยปะแป้ง

ซึ่งก็เป็น 2 ต้นยอดนิยมที่จำนวนมากเอามาตกแต่งบ้านกัน เพราะเชื้อรา Fusarium spp. ขึ้นโดยตรงบริเวณส่วนตัดต่อ สังเกตได้จากโคนกิ่งมีสีน้ำตาลและก็ดำ ใบเฉาเหลืองตก ถ้าเกิดไม่รีบรักษาในที่สุดบางทีอาจรุกลุกลามไปจนถึงทำให้กิ่งเน่าทั้งยังกิ่งรวมทั้งตายในที่สุด

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    คาสิโนเวียดนาม

bookmark_borderการนอนดึกส่งผลเสีย อย่างไรต่อร่างกายของเราบ้าง

การนอนดึกมีผลเสียต่อร่างกายและสุขภาพของเราอย่างมาก นี่คือบางประการที่สำคัญ

1.สุขภาพหัวใจ: การนอนน้อยเกินไปหรือการนอนดึกอาจเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เช่น โรคหัวใจพุ่งลง (Heart Disease) หรือความดันโลหิตสูง (Hypertension) โดยเฉพาะถ้ามีการตั้งแต่นาน

2.ภูมิคุ้มกันร่างกาย: การนอนไม่เพียงพอสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง ซึ่งอาจทำให้เราเสี่ยงต่อการติดเชื้อและโรคต่างๆได้ง่ายขึ้น

3.สมรรถภาพกายและจิตใจ: การนอนไม่เพียงพอสามารถทำให้รู้สึกง่วงและเหนื่อยล้าตลอดวัน ทำให้สมรรถภาพกายและจิตใจลดลง มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานและความจำ

4.น้ำหนัก: การนอนไม่เพียงพออาจทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ลำบาก เพราะมีผลต่อระดับฮอร์โมนที่ควบคุมการอยู่รอด ซึ่งอาจเสียหายหรือเปลี่ยนแปลง

5.ความคิดไม่ชัดเจนและปัญหาในการเรียนรู้: การนอนไม่เพียงพอสามารถทำให้ความสามารถในการคิดและเรียนรู้ลดลง ทำให้เกิดปัญหาในการจดจำและทำงานที่ต้องใช้ความสนใจ

6.อารมณ์: การนอนไม่เพียงพออาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดหรือเครียดได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีผลต่อระดับฮอร์โมนและสมดุลทางจิตใจ

ดังนั้น การรักษาระยะเวลาการนอนที่เพียงพอและมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพที่ดีของร่างกายและจิตใจในระยะยาว

 

การนอนกี่ชั่วโมงต่อวันถึงจะเพียงพอต่อร่างกายต้องการ

การนอนที่เพียงพอต่อร่างกายมักขึ้นอยู่กับอายุและความต้องการของแต่ละบุคคล ดังนั้น มีคำแนะนำเกี่ยวกับเวลาการนอนต่อวันที่แตกต่างกันไปตามกลุ่มอายุดังนี้

1.เด็ก (0-3 ปี): ควรนอนประมาณ 14-17 ชั่วโมงต่อวัน รวมทั้งการนอนในระหว่างวันและกลางคืน

2.เด็ก (4-12 ปี): ควรนอนประมาณ 9-12 ชั่วโมงต่อวัน

3.เยาวชน (13-18 ปี): ควรนอนประมาณ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน

4.ผู้ใหญ่ (18-64 ปี): ควรนอนประมาณ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน

5.ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป): ควรนอนประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน

ความสำคัญของการนอนที่เพียงพอเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของร่างกายได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เนื่องจากมีผลในการฟื้นฟูร่างกาย ปรับปรุงความจำ พัฒนาสมรรถภาพทางสมอง และลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับการมีเวลานอนที่เพียงพอในทุกวัยช่วงชีวิตของคุณ

 

การนอนมากเกินไปก็สามารถมีผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน นี่คือบางผลเสียที่อาจเกิดขึ้น

1.ความง่วงและความไม่มีความพร้อมในตื่นมา: การนอนมากเกินไปอาจทำให้รู้สึกง่วงและไม่มีความพร้อมในการตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดไป เนื่องจากการนอนมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายเข้าสู่สถานะการหลับลึกเกินไป ซึ่งอาจทำให้รู้สึกมีความง่วงและไม่ตื่นเต้นในการตื่นขึ้นมา

2.ความเสี่ยงต่อโรค: การนอนมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลายๆ ประการ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคซึมเศร้า

3.สุขภาพจิต: การนอนมากเกินไปอาจมีผลต่อสุขภาพจิตของคุณด้วย หลับมากเกินไปอาจทำให้รู้สึกเฉื่อยชา หรือมีอารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น รู้สึกเศร้าหรือหงุดหงิดได้ง่ายขึ้น

4.ปัญหาในการควบคุมน้ำหนัก: การนอนมากเกินไปอาจทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ยากขึ้น เนื่องจากมีผลต่อระดับฮอร์โมนและกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย

 

สนับสนุนโดย    hoiana เวียดนาม

bookmark_borderเมื่อเราลดความอ้วนอยู่ ควรทานผลไม้หรือไม่

การรับประทานผลไม้เป็นส่วนสำคัญของโปรแกรมอาหารที่ดีต่อสุขภาพไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด แม้ว่าคุณกำลังลดน้ำหนักอยู่ก็ตาม ผลไม้มีประโยชน์มากมายและเป็นส่วนสำคัญของการรักษาสุขภาพที่ดีโดยรวม โดยเฉพาะผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เช่น กล้วย แอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี และผลไม้อื่นๆ ที่มีปริมาณน้ำตาลธรรมชาติที่เหมาะสม สามารถช่วยในกระบวนการลดน้ำหนักได้ เพราะเป็นอาหารที่ร้อยละสูงของปริมาณน้ำหนักเป็นน้ำ และมีพลังงานต่ำ

 

ดังนั้น ในกรณีที่คุณกำลังลดน้ำหนัก ควรคำนึงถึงปริมาณและชนิดของผลไม้ที่คุณบริโภค เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการบริโภคพลังงานเกินไป และเลือกผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อกระบวนการลดน้ำหนักของคุณอย่างเหมาะสม คุณสามารถปรึกษากับนักโภชนาการหรือแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมอาหารที่เหมาะสมสำหรับการลดน้ำหนักของคุณได้ด้วย

โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ น้ำหนักปัจจุบัน สุขภาพโดยรวม และกิจกรรมทางกายที่ทำในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม การรับประทานผลไม้เป็นส่วนสำคัญของการรักษาสุขภาพที่ดีโดยรวม และไม่ควรถูกเพิกเฉยไปเพราะการลดน้ำหนักในขณะนี้

 

ผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน มีอะไรบ้าง

 

ผลไม้เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและมักจะมีพลังงานต่ำ ซึ่งสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เมื่อบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม ดังนั้น ผลไม้ที่มีความน่าจะเป็นที่จะไม่ทำให้เกิดอ้วนได้มีมากมาย นับเป็นตัวอย่างได้แก่

1.กล้วย: มีปริมาณใหญ่ของกาบิน ทำให้รู้สึกอิ่มและลดความอยากอาหาร

2.แอปเปิ้ล: มีใยอาหารมากและน้ำตาลธรรมชาติซึ่งมีความหวานที่สมดุล

3.สตรอเบอร์รี: มีปริมาณน้ำมาก ช่วยให้รู้สึกอิ่มและสะสมน้ำตาลธรรมชาติ

4.ผลไม้เบอร์รี่: มีแอนทิออกซิแดนที่ช่วยลดการติดต่อ

5.มะละกอ: มีปริมาณน้ำสูง ช่วยให้รู้สึกชื่นใจและช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร

นอกจากนี้ ควรระวังการบริโภคผลไม้ที่มีน้ำตาลเพิ่มเติมหรือสารเสริมเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เพิ่มพลังงานเกินไปและส่งผลให้เกิดน้ำหนักเกินไปได้ในที่สุด

ผลไม้ที่ควรเลี่ยง ไม่ควรรับประทานโดยเฉพาะคนที่กำลังลดความอ้วน

สำหรับผู้ที่กำลังพยายามลดน้ำหนักหรือรักษาน้ำหนักในเกณฑ์ที่เหมาะสม ควรระมัดระวังกับผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง และมีความหวานสูง เนื่องจากมักจะมีพลังงานสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดเสี่ยงให้เพิ่มน้ำหนักได้ ตัวอย่างของผลไม้ที่ควรเลี่ยงหรือรับประทานในปริมาณจำกัดได้แก่

1.กล้วย: มีปริมาณน้ำตาลสูง เนื่องจากมีการแปรสภาพแป้งไว้ในลำต้นของกล้วย และอาจทำให้เกิดการสะสมพลังงานเกินได้

2.แอปเปิ้ล: แม้จะมีใยอาหารสูง แต่ก็มีปริมาณน้ำตาลสูง อย่างไรก็ตาม การรับประทานแอปเปิ้ลในปริมาณที่เหมาะสมไม่ควรทำให้เกินความจำเป็น

3.แก้วมังกร: มีความหวานสูง และมีปริมาณน้ำตาลเพิ่มเติม ทำให้มีพลังงานสูง

4.ลูกพลับ: มีปริมาณน้ำตาลสูงและพลังงานสูง

5.ส้ม: มีปริมาณน้ำตาลสูง เนื่องจากการอัดน้ำหนักของส้ม และอาจส่งผลให้เพิ่มน้ำหนักได้

 นอกจากนี้ ควรระวังการบริโภคผลไม้ที่มีการปรุงแต่งหรือผสมกับสารเพิ่มเติม เช่น น้ำตาลหรือคาร์บอนเนต ซึ่งอาจเพิ่มปริมาณพลังงานและน้ำตาลเข้าไปในอาหารได้

 

สนับสนุนโดย    ใส่เครื่องช่วยฟังดีไหม

bookmark_borderตรวจทานบ้านกันยังไง ให้ครบถ้วนบริบูรณ์

ตรวจทานบ้านกันยังไง ให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ตรวจทานบ้านควรทำให้ละเอียดถ้าจะให้ดีแนะนำตรวจโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญดีกว่า

– ตรวจประตู หน้าต่าง บานเกล็ด ว่าจัดตั้งเป็นระเบียบเรียบร้อยไหม สามารถเปิดปิด ล็อคได้ตามคอนเซ็ปหรือไม่ และก็การพิจารณา ลูกบิด มือจับ กุญแจ ว่าใช้ได้จริงหรือไม่ และพบคราบสนิมหรือเปล่า

– ตรวจเช็คพื้น โดยยิ่งไปกว่านั้นระหว่างจุดเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ อาทิเช่น พื้นปูนกับขอบไม้ ไม้ปาร์เก้ บางทีอาจควรต้องทดลองเดินมองให้ทั่ว ๆ ว่ามีส่วนใดจัดตั้งไม่เรียบร้อยหรือเปล่า

– ตรวจเช็คฝาผนัง การทาสีบ้าน หรือบ้านไหนใช้วอลเปเปร์ก็ลองตรวจดู การปูนฉาบฝาผนัง ถ้าเกิดมีตำหนิ หรือปัญหาจุดใด ให้ใช้ชอล์คทำเครื่องหมายไว้

– ตรวจเช็คเพดาน ทุกห้องข้างบน มองว่ามีรอยรั่วจากหลังคาหรือเปล่า ตรงส่วนนี้บางทีอาจวิเคราะห์ได้ยากกว่าส่วนอื่น ๆ เพราะเหตุว่าชอบประสบปัญหาก็เมื่อฝนตกจริง ๆ เท่านั้น

– ตรวจเช็คระบบกระแสไฟฟ้า ทำเปิดไฟทุกดวงในบ้าน เช็คว่าสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ ใช้ได้ครบทุกดวงไหม รวมทั้งใช้ไขควงสำหรับเพื่อการพิจารณาปลั๊กไฟทุกจุด ว่ากระแสไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ธรรมดาไหม เมื่อตรวจเช็คด้วยการเปิดปิดไฟเสร็จแล้ว ถัดมาให้กระทำการปิดให้ แล้วก็กระทำการเช็คมิเตอร์ไฟ ว่ายังหมุนหรือเปล่า ถ้ากระทำปิดสวิตช์หมดแล้ว แต่ว่ายังหมุนอยู่ ระบบกระแสไฟฟ้าในบ้าน อาจมีส่วนที่ไฟรั่ว ซึ่งทำให้ค่าไฟแย่ลงกว่าเดิมในอนาคตได้

– ตรวจเช็คระบบน้ำ ทำทดลองเปิดก๊อกน้ำทุกจุด และก็ปิดให้หมดทุกจุด ต่อจากนั้นกระทำตรวจเช็คที่มาตรวัดน้ำ ว่ายังหมุนหรืออยู่กับที่ ถ้ายังหมุนธรรมดา บางทีอาจซึ่งก็คือระบบท่อด้านในภายแตกรั่วได้

– วิเคราะห์พื้น ในตำแหน่งที่จำต้องรองรับน้ำ ยกตัวอย่างเช่น ส้วม ระเบียงบ้าน ลานชะล้าง หรือจุดอื่น ๆ กระทำเทน้ำราดลงพื้น แล้วสังเกตว่า น้ำไหลไปทางแนวทางที่จัดวางไว้หรือไม่ เกิดการท่วมขังไหม

– ตรวจดูความเรียบร้อยของสุขา วิเคราะห์คราบ มีส่วนที่ไม่สามารถที่จะชำระล้างได้ไหม ตรวจทานการปูพื้นรวมทั้งบุฝาผนัง ว่ามีรอยบิ่นหรือแตกหักหรือเปล่า

– ตรวจดูรอยร้าวบนฝาผนัง พินิจให้ดีก่อนว่า เป็นรอยร้าวซึ่งสามารถปรับปรุงได้ไหม รอยร้าวธรรมดาจะมี 2 แบบ เป็นรอยร้าวจากการก่ออิฐที่มิได้ประสิทธิภาพ รอยร้าวจากการฉาบปูนไม่เกาะกับก้อนอิฐ รอยร้าวชนิดนี้ ไม่ทำให้เกิดผลเสียเท่าไรนัก สามารถซ่อมแซมเพิ่มได้อย่างสะดวก ส่วนรอยร้าวอีกจำพวก

ซึ่งทำให้เกิดความเสื่อมโทรมรวมทั้งอันตรายต่อผู้อาศัยหมายถึงรอยร้าวที่เกิดขึ้นมาจากส่วนประกอบ รากฐาน เสา คาน แล้วก็ประจำถิ่น ซึ่งมีต้นเหตุจากการออกแบบที่บกพร่อง ก่อสร้างผิดพลาด มีการยุบที่แตกต่างกันขององค์ประกอบ หรือมีต้นเหตุจากปัญหาอื่น ๆ ถ้าหากเจอรอยร้าวจำพวกดังที่กล่าวมาแล้ว ควรจะให้วิศวกรรมตรวจทาน มาตรวจตราอีกรอบ

เมื่อใดที่พวกเราเจอจุดบกพร่อง ให้กระทำการเขียนบันทึกไว้อย่างละเอียดลออ แล้วทำรายการที่จำเป็นต้องปรับแก้ให้กับผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือผู้ครอบครอง แผนการบ้าน หมู่บ้านจัดสรร เพื่อทำปรับปรุงแก้ไขใหม่ และก็นัดหมายตรวจทานงานอีกที

 

สนับสนุนโดย    Inspire Entertainment Resort

bookmark_borderเคล็ดลับของการเลี้ยงลูกน้อย ให้มีความเก่งและมั่นใจ

การเลี้ยงลูกมันไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเอาสะเลย หากใครที่กำลังเป็นแม่คนอยู่ เราขอแนะนำการที่จะทำให้ลูกของคุณนั้นมีความเก่ง และมีความมั่นใจกล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ หากคุณเป็นคุณแม่มือใหม่ เรามารับมือและเลี้ยงลูกไปพร้อมกันดีกว่า

เราจะทำอย่างไรให้ลูกของเราโตขึ้นมามีความมั่นใจ

1.พิจารณาการให้คำชื่นชม

การเลือกที่จะชมลูกในเรื่องต่างๆ ไม่ใช่ว่าลูกของคุณทำอันไหนได้ก็ชมไปสะหมด เด็กจะเกิดการชิน ว่าการชมเป็นสิ่งที่ดีหรือว่าทำอะไรก็ต้องรอให้พ่อแม่มาชม ดังนั้นการเลือกชมเฉพาะบางสิ่งจึงถือได้ว่ามันเป็นเรื่องที่พิเศษ อย่างไรก็ตามการให้กำลังใจลูกเป็นสิ่งจำเป็น แต่ถ้าเรื่องนั้นมันพิเศษมากๆคุณก็ควรชมแต่ก็ไม่ควรที่จะให้กำลังใจทุกๆเรื่อง รวมถึงเรื่องที่เด็กทำในประจำวันอันนี้ก็ไม่ต้องชมก็ได้

 

2.อย่าพยายามช่วยลูกๆทุกเรื่อง

การปล่อยให้ลูกน้อยของคุณทำอะไรเองบ้างก็เป็นการฝึกทักษะให้อย่างหนึ่ง การที่เขากล้าที่จะทำก็ย่อมเป็นผลดีในอนาคต หากคุณช่วยเขาทุกเรื่องต่อไปเขาจะไม่มีความกล้าอะไรเลย หรือจะทำอะไรไม่เป็นเพราะต้องรอให้พ่อแม่มาช่วยอยู่ตลอด แบบนี้โตไปจะกล้าทำอะไรเองได้อย่างไร ดังนั้นพ่อแม่ไม่ควรที่จะฝึกความเคยชินด้วยการช่วยลูก ปล่อยให้เขาลองทำเรื่องผิดถูกดูบ้างจะเป็นการฝึกวินัยไปในตัว

 

3.ให้ลูกเลือกตัดสินใจเอง

หากมีการคิดการตัดสินใจใดๆก็ตาม เราผู้เป็นพ่อแม่ควรที่จะปล่อยให้ลูกนั้นหาข้อมูลหรือตัดสินใจอะไรเองบ้าง บางครั้งอาจจะไม่ตรงกับใจเราเท่าไหร่ แต่มันคือความชอบของลูก เราควรมองอยู่ห่างๆ ให้เขาได้คิดได้ตัดสินใจ ในเรื่องที่เขาต้องตัดสินใจ พ่อแม่ไม่ควรเข้ามาจุ้นทุกเรื่องหรือตัดสินใจแทนเลย เพราะมันจะส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกในอนาคตได้

 

4.ส่งเสริมการชอบของลูก

ไม่ว่าลูกของท่านจะชื่นชอบอะไรเราผู้เป็นผู้ปกครองจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมการชอบของลูกเพียงเพราะเขามีการตัดสินใจ เลือกสิ่งที่ชอบ ดังนั้นเราควรคอยให้คำแนะนำเท่านั้นแต่ไม่ควรเข้าไปขวาง หรือห้ามในสิ่งที่ลูกชอบ สิ่งที่ลูกชอบนั้นมันไม่ได้แค่ส่งเสริมความคิดแต่มันจะทำให้ลูกมีความมั่นใจ การตัดสินใจ และลูกของคุณจะเก่งขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่นการเล่นกีฬา หากลูกน้อยของคุณชอบ และต้องกสนเล่น คุณก็ควรที่จะสนับสนุน ไม่ควรห้ามหรือไม่ต้องคิดเองเออเองว่าลูกอาจจะล้ม อาจจะเจ็บ ปล่อยให้เขาได้ทำอะไรด้วยตนเอง

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ